ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว

ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว เป็นศูนย์เรียนรู้ สาธิต รวบรวมข้อมูล และเป็นศูนย์ประสานงาน ที่สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557

โครงการศึกษาพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน


โครงการศึกษาพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน
สำนักงานเทศบาลตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด 
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกะแก้ว 

หลักการและเหตุผล
        เนื่องจากในปัจจุบันนี้เกษตรกรในเทศบาลตำบลเกาะแก้วส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ซึ่งมักจะประสบปัญหาเรื่องศัตรูพืชรบกวนอยู่เป็นประจำ และทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ ไม่ค่อยมีคุณภาพตามความต้องการของท้องตลาด จึงเป็นปัญหากับเกษตรกร ทำให้เกษตรกรหันมาใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตและมีสารพิษตกค้าง ซึ่งหากช่วยให้เกษตรกรหันมาใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงจะทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิตและผลผลิตมีคุณภาพดีปลอดจากสารพิษตกค้าง ตลอดจนช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตและรายได้เพิ่มขึ้น นั้น
จากสภาวะดังกล่าวเกษตรกรมักจะไม่ประสบผลสำเร็จในการผลิตผลผลิตทางการเกษตร อันเนื่องมาจากต้นทุนการผลิตสูง ราคาของผลผลิตค่อนข้างตกต่ำ และอันตรายที่จะเกิดจากสารพิษตกค้างของสารเคมีในดินและในร่างกาย ซึ่งปัจจุบันนโยบายของรัฐบาลให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิต โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นโดยเฉพาะพืชสมุนไพร ตลอดจนการใช้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์พร้อมทั้งการใช้ศัตรูธรรมชาติป้องกันกำจัด เพื่อลดปริมาณศัตรูพืชเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรและคุณภาพของผลผลิตดีขึ้น และตัวเกษตรกรเองก็ปลอดภัยจากสารพิษตกค้างในร่างกายและในดินรวมทั้งผู้บริโภคด้วย
ดังนั้น เทศบาลตำบลเกาะแก้ว จึงจะดำเนินโครงการศึกษาพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน ซึ่งจะดำเนินงานตามโครงการ ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว เพื่อช่วยพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน เป็นการนำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ที่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านของชุมชนตำบลเกาะแก้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกร และให้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงที่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านยังคงอยู่กับชุมชนตลอดไป รวมทั้งเพื่อให้เกษตรกรนำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไปใช้ไล่แมลงแทนการใช้สารเคมี และช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตและรายได้ให้กับเกษตรกร ตลอดจนใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้การผลิตสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านเทศบาลตำบลเกาะแก้วต่อไป
วัตถุประสงค์
        1.  เพื่อศึกษาพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านของชุมชนตำบลเกาะแก้ว
        2.  เพื่อนำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกร
        3.  เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ทดแทนการใช้สารเคมี
        4.  เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้การผลิตสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลง
        5.  เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนตลอดไป
        6.  เพื่อเผยแพร่การใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านให้กับเกษตรกร
เป้าหมาย
        -  ให้ความรู้การผลิตสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านกับเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย
ในพื้นที่เทศบาลตำบลเกาะแก้ว ตลอดจนนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ดที่ขอเข้าศึกษาเรียนรู้
      -  นำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน แจกจ่ายให้กับเกษตรกร กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เทศบาลตำบลเกาะแก้ว
กิจกรรมตามโครงการ
        -  ผลิตสารสกัดน้ำสะเดาสูตรเข้มข้น
        -  ผลิตน้ำหมักหอยเซอรี่และน้ำฮอร์โมนผลไม้
        -  ผลิตสารสกัดจากเมล็ดมะกล่ำ
วิธีการดำเนินการ
        -  จัดทำโครงการเสนอเพื่อขออนุมัติ
        -  สำรวจเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย
        -  จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินโครงการฯ
        -  ดำเนินการตามโครงการฯ
        -  จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการฯ
        -  ติดตามผลการดำเนินงานตามโครงการฯ
พื้นที่ในการดำเนินงาน
        -   ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว
ระยะเวลาดำเนินการ
        -  ระหว่างเดือนสิงหาคม – ธันวาคม 2556
ผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการ
        -  ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
งบประมาณ/แหล่งที่มา
        - ใช้งบประมาณจากสำนักงานเทศบาลตำบลเกาะแก้ว 
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
        1.  พัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรสูงสุด
        2.  ช่วยพื้นฟูการใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน
        3.  เผยแพร่การใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านให้กับเกษตรกรและผู้สนใจ
        4.  ใช้เป็นศูนย์เรียนรู้การผลิตสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านตำบลเกาะแก้ว
        5.  การเกษตรนำสารสกัดพืชสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงแทนการใช้สารเคมี
        6.  เกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิต

ผู้อนุมัติโครงการ
        นายชัยชนะ รัตนชัยฤทธิ์ นายกเทศมนตรีตำบลเกาะแก้ว

ผู้รับผิดชอบโครงการ
       สำนักปลัดเทศบาลตำบลเกาะแก้ว งานพัฒนาชุมน ร่วมกับศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว
กิจกรรมโครงการศึกษาพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน
       ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว ได้ดำเนินการจัดทำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน เพื่อศึกษาพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน นำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกร ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ทดแทนการใช้สารเคมี และส่งเสริมให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนตลอดไป ตลอดจนเผยแพร่การใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านให้กับเกษตรกร

พืชสมุนไพรพื้นบ้าน

               

ต้นหนอนตายหยาก
ชื่อที่เรียก
        หนอนตายหยาก
ชื่ออื่นๆ
        หนอนตายหยาก
หมวดหมู่ทรัพยากร
        พืช
ลักษณะ
        -  เป็นไม้เถา เถากลมเล็กเรียวสีเขียว พาดพันต้นไม้อื่น
        - 
ใบรูปหัวใจ เส้นใบวิ่งตามยาวราว 10 เส้น ผิวและขอบเรียบ สีเขียวเข้ม
        - 
มีหัวเป็นแท่งกลมยาว ขนาดนิ้วมือเป็นกระจุก
        - 
ดอกตูมเป็นรูปเหมือนเงินราง สีเขียวอมเหลือง บานออกเป็นสีแดงเข้ม หรือขาว
       -  ฝักขนาดหัวแม่มือ คล้ายลูกรักบี้ ยาว 3-4 ซ.ม. กว้าง 1.5-2 ซ.ม. ฝักอ่อนสีเขียว  ฝักแก่สีน้ำตาลเข้ม จะแตกเมื่อแห้ง แต่ละฝักมี 20 - 30 เมล็ด ที่ขั้วเมล็ดมีขนปุยอ่อนพยุงเมล็ดให้ลอยตามลม
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ คือ ราก (หัว) รสเมาเบื่อ
        -  ใช้ปรุงยารับประทาน
        - 
แก้โรคผิวหนัง น้ำเหลืองเสีย ผื่นคันตามร่างกาย
        - 
ฆ่าเชื้อโรคพยาธิภายใน
        - 
ตำผสมน้ำเอาน้ำพอกทาฆ่าหิด เหา แมลง หนอนศัตรูพืช
        - 
ต้มกับยาฉุน รมหัวริดสีดวงให้ฝ่อแห้งไป
ประโยชน์ทางก่รเกษตร
      ใช้เป็นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช  กำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น หนอนกัดกินใบและเพลี้ยอ่อน  กำจัดเชื้อสาเหตุโรค
แหล่งที่พบในเขตเทศบาลตำบลเกาะแก้ว
        - บริเวณป่าชุมชนบ้านโคกกุง หมู่ 4 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
        - บริเวณป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติป่าโคกท่าสี บ้านท่าสี - หนองสำราญ หมู่ 3,13 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
ตะไคร้หอม 
   

ตะไคร้หอม
       เป็นพืชล้มลุก ความสูงประมาณ 4 - 6 ฟุต ใบยาวเรียว ปลายใบมีขนหนาม ลำต้นรวมกันเป็นกอ มีกลิ่นหอม ดอกออกเป็นช่อยาวมีดอกเล็กฝอยเป็นจำนวนมาก ตะไคร้เป็นพืชที่สามารถนำส่วนต้นหัวไปประกอบอาหาร และจัดเป็นพืชสมุนไพรด้วย
    เป็นพืชตระกูลหญ้า ตะไคร้เป็นพืชที่เจริญเติบโตง่าย อาจมีทรงพุ่มสูงถึง 1 เมตร มีลำต้นที่แท้จริงประมาณ 4 - 7 เซนติเมตร ลำของต้นจะถูกห่อหุ้มไปด้วยกาบใบโดยรอบ ใบยาวแคบเส้นใบขนานกับก้านใบ ใบของตะไคร้อุดมไปด้วยน้ำมันหอมระเหย ที่นิยมนำมาปลูกเป็นพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกกันโดยทั่วไป
สารสกัดตะไคร้หอมผสมกับสารสกัดจากเมล็ดสะเดา และข่า ในอัตรา 200 มล./น้ำ 20 ลิตร มีผลลดการเข้าทำลายของเพลี้ยอ่อนและหนอนเจาะฝักซึ่งเป็นแมลงศัตรูถั่วฝักยาวได้ แต่ไม่สามารถควบคุมการเข้าทำลายของแมลงวันเจาะต้นถั่ว 
ไหลแดง
ไหลแดง
      ลำต้นโดยทั่วไปมีลักษณะกลม
      ใบใบอ่อนและยอดมีขนอ่อนสีน้ำตาลปนแดง เถาหรือลำต้นส่วนที่แก่มีสีน้ำตาลปนแดงเช่นกัน แต่จะเริ่มมีสีเขียวเห็นชัดตรงปล้องที่อยู่ก่อนถึงยอดประมาณ 2-3 ปล้อง ใบแก่มีสีเขียว ในก้านใบหนึ่งๆ จะมีใบตั้งแต่ 5 ถึง 13 ใบ โดยใบจะขึ้นเป็นคู่ๆตรงข้ามกัน 2-4 คู่ ใบคู่แรก (นับจากโคนก้านใบ) จะมีขนาดเล็กที่สุด และเริ่มใหญ่ขึ้นเป็นลำดับ ใบสุดท้ายที่อยู่ตรงยอดจะเป็นใบเดี่ยว ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดก้านใบแต่ละก้านจะขึ้นบนลำต้นสลับด้านกัน
       ใบมีลักษณะคล้ายรูปไข่ กว้างประมาณ 3.0 - 9.5 ซ.ม. และยาวตั้งแต่ 6.5 - 27.0 ซ.ม. โคนใบเล็กเรียวขึ้นไปและปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ พื้นใบด้านบนสีเขียวลักษณะมัน เส้นแขนงลักษณะคล้ายก้างปลาได้ชัด แต่ไม่ยาวจนชิดขอบใบ ด้านท้องใบมีสีเขียวและเห็นเส้นใบชัดกว่าด้านบน เส้นใบมีลักษณะเขียวปนน้ำตาล
      ดอกออกเป็นช่อ มีลักษณะคล้ายดอกแคฝรั่ง ดอกตูมมีสีชมพูอมม่วง เมื่อบานเต็มที่จะเป็นสีชมพูอ่อน และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีขาว ช่อดอกออกตามลำต้น แต่ละช่อยาวประมาณ 20-25 ซ.ม.
ผลเกิดจากการผสมเกสร มีลักษณะเป็นฝักแบน ฝักอ่อนมีสีเขียวและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลปนแดงเมื่อฝักแก่ ภายในฝักมีเมล็ด ซึ่งมีลักษณะกลม และแบนเล็กน้อย สีน้ำตาลปนแดงเมื่อฝักแก่จะแยกออกจากกัน ทำให้เมล็ดร่วงลงพื้นดินเมื่อมีความชื้นพอเหมาะ เมล็ดก็จะงอกและเจริญเติบโตเป็นลำต้นต่อไปพืชชนิดนี้มีทรงพุ่มหนาทึบ อาจใหญ่หรือเล็กกว่าขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม สามารถปลูกเป็นไม้ร่มหรือไม้ดอกก็ได้
การใช้ประโยชน์ทางการเกษตร
      สารพิษในโล่ติ้น นอกจากจะมีคุณสมบัติในการเบื่อปลาแล้ว ยังพบว่าเมื่อพ่นบนตัวแมลง สารพิษจะถูกดูดซึมเข้าไปในกระเพาะ ทำให้แมลงตายได้ หรือใช้ในรูปของสารไล่แมลง การใช้สารพิษอาจใช้ในรูปของสารละลายหรือในรูปผง ถ้าใช้ในรูปผงจะมีประสิทธิภาพใน การฆ่าหมัด เห็บ ไรไก่ ปลวก
แมลงวัน เรือด เพลี้ยอ่อนบางชนิด หนอนเจาะผัก มวนปีก แก้ว ด้วงเต่าแตง ด้วงหมัดผัก เพลี้ยจั๊กจั่นมะม่วงหนอนเจาะกะหล่ำปลี และศัตรูพืชผักต่าง ๆ เป็นต้น
      สารพิษในโล่ติ้นสามารถใช้พ่นโดยตรงบนต้นอ่อนและใบอ่อนของพืช โดยไม่เกิดอันตรายกับพืชเพราะสารนี้เป็นสารอินทรีย์ที่ได้จากพืช สลายตัวเร็ว ไม่มีผลตกค้างในพืชอาหารและสิ่งแวดล้อมเนื่องจากโล่ติ๊นเป็นพืชตระกูลถั่ว สามารถปลูกเพื่อไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดบำรุงดินแล้วยังใช้ ปลูกเป็นพืชคลุมดิน เพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้นจากดิน และป้องกันการชะล้างของดินได้อีกด้วย
 
มะกล่ำตาหนู

  มะกล่ำตาหนู

       มะกล่ำตาหนู มะกล่ำเครือ หรือ ก่ำเคือ (อังกฤษ: Jequirity) เป็นพืชไม้เถาในวงศ์ถั่ว เมล็ดมีพิษ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Gunja" ในภาษาสันสกฤต เป็นพื้นเมืองของประเทศอินโดนีเซีย เติบโตได้ดีในเขตร้อนและใกล้เขตร้อน ทำให้มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นวัชพืชต่างถิ่นที่รุกรานในพื้นที่ที่มะกล่ำตาหนูถูกนำเข้ามา
    มะกล่ำตาหนูยังมีชื่อพื้นเมืองอื่น ๆ อีกดังนี้: กล่ำเครือ กล่ำตาไก่ มะกล่ำเครือ มะกล่ำแดง มะแค๊ก (เชียงใหม่) เกมกรอม (สุรินทร์) ชะเอมเทศ ตากล่ำ (กลาง) มะขามเถา ไม้ไฟ (ตรัง) หมากกล่ำตาแดง (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
      มะกล่ำตาหนูเป็นพรรณไม้เถา ลำต้นเล็ก มีขนสั้น ๆ ขึ้นประปราย
    ใบเป็นใบรวม มีใบย่อยเรียงสลับกันคล้ายขนนก  ยาวประมาณ 3.8 - 10 ซม. ใบย่อยเป็นรูปกลมถึงรี ปลายใบแหลมมน โคนใบกลมมน ขอบใบเรียบ ผิวใบเกลี้ยง ใบมีขนาดยาว 5 - 20 ม.ม. กว้างประมาณ 3 - 8 ม.ม. ใต้ท้องใบมีขนเล็กน้อย
    ดอกเป็นช่อตามบริเวณง่ามใบ ดอกมีกลีบเลี้ยงเป็นสีเขียวเรียงซ้อนกันตามเข็มนาฬิกา กลีบมีรอยหยัก 4 รอย สีขาว ผิวข้างนอกมีขนนุ่มปกคลุม
     ผลเป็นฝัก พองเป็นคลื่นเมล็ด ฝักเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฝักอ่อนมีสีเขียว เนื้อเปลือกฝักจะเหนียว เมื่อแก่จะแตกอ้าออกจากกัน ข้างในมีเมล็ด 1 - 5 เมล็ด
     เมล็ดเป็นรูปกลมรี สีแดง บริเวณขั้วมีจุดสีดำ ผิวเรียบเกลี้ยง เมล็ดเหนียวและแข็ง

สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน
     เมื่อจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้วร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการจัดทำสารกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลง พร้อมศึกษาและพัฒนาการใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงภายในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว

       

     
       จัดทำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว 

   

   

   

      

      

      

 สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน 

   

 

   

       บรรจุสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านใส่ขวดพลาสติก นำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไปเผยแพร่และแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อนำไปใช้ป้องกันและขับไล่แมลงแทนการใช้สารเคมี และเป็นการช่วยเกษตรกรลดต้นทุนเพิ่มผลิตต่อไป
  
   
   
             
แปลงสาธิตการใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน
 
     ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว ได้จัดทำแปลงสาธิตการใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน บริเวณแปลงสาธิตมีการปลูกพริก ฝักทอง ผักกาด มะละกอ

      

      

   

 

   

   

   

   

       ภายในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว ได้จัดทำเตาเผาถ่านบริเวณแปลงปลูกพริก เพื่อใช้ประโยชน์จากป่องควันไฟ ในการขับไล่แมลงตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน

   

 


     การดำเนินงานโครงการศึกษาพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุตามวัตถุประสงค์ และเทศบาลตำบลเกาะแก้วร่วมกับศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว จะได้ดำเนินการแจกจ่ายสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน ให้กับเกษตรกรที่มีความสนใจในการใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงนำไปใช้
          ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้วจะถ่ายทอดการทำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านให้กับเกษตรกร เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรต่อไป
 สำรวจพืชสมุนไพรในเขตพื้นที่ตำบลเกาะแก้ว
เทศบาลตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
    เทศบาลตำบลเกาะแก้วร่วมกับศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ได้ทำการศึกษาและสำรวจพืชสมุนไพรในเขตตำบลเกาะแก้ว พบว่าในเขตพื้นที่ตำบลเกาะแก้ว มีพืชสมุนไพรที่ใช้ทำสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลง ได้แก่ มะกล่ำตาหนู ต้นหนอนตายหยาก เมล็ดสะเดา และพืชสมุนไพรเหล่านี้สามารถนำมาสกัดเป็นสารป้องกันและขับไล่แมลง และเป็นสารสกัดกำจัดเชื้อราในดิน
    เทศบาลตำบลเกาะแก้วเห็นว่าพืชสมุนไพรเหล่านี้ควรอนุรักษ์ และส่งเสริมให้ชุมชนนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ให้ชุมชนได้อยู่อย่างพอเพียง
แหล่งที่พบ
         1. พื้นที่ป่าชุมชนบ้านโคกกุง หมู่ 4 บ้านโคกกุง ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เนื้อที่ 227 ไร่ 2 งาน 96 ตารางวา
       2. พื้นที่ป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติป่าโคกท่าสี หมู่ 3,13 บ้านท่าสี – หนองสำราญ ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เนื้อที่ 866 ไร่

การสำรวจพืชสมุนไพร
     ในการสำรวจพืชสมุนไพรในครั้งนี้ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้วและนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน 

  

 

   

   

   

   
   
      ในการสำรวจพืชสมุนไพรในครั้งนี้ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้วและนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน และส่งเสริมให้ชุมชนใช้สารสกัดพืชจุลินทรีย์ไล่แมลงแทนการใช้สารเคมี ตลอดจนร่วมอนุรักษ์พืชสมุนไพรที่มีในชุมชนให้คงอยู่ตลอดไป
      และศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว ได้เก็บรวบรวบรวมข้อมูล เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับและพัฒนาสารสกัดพืชจุลินทรีย์ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับชุมชนตลอดไป

ร่วมอนุรักษ์พันธุ์พืชสมุนไพรพื้นบ้าน
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเทศบาลตำบลเกาะแก้ว
 
 
  

ไม่มีความคิดเห็น: